วันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2555

“ย่ำขาง” การนวดทางเลือก แก้ปวดเมื่อยฉบับล้านนา


                            
                                 “ย่ำขางการนวดทางเลือก แก้ปวดเมื่อยฉบับล้านนา



ย่ำขาง คือ การรักษาอาการปวด เป็นการรักษาโรคด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้านแบบล้านนา การย่ำขางมีมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายาย เป็นการนวดรักษาอาการปวดตามร่างกายแบบล้านนาโบราณโดยใช้เท้า ความร้อนและสมุนไพร
ขาง คือ เหล็กหล่อชนิดหนึ่งมีลักษณะเป็นโลหะเหล็กผสมพลวงที่นำไปหล่อเป็นใบผาลไถที่ใช้สำหรับไถนา ขนาดประมาณ 8 x 6 นิ้ว ปลายแหลม ภาษาถิ่นล้านนาเรียกว่า ใบข่าง เชื่อกันว่า ข่าง มีความศักดิ์สิทธิ์เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ไถนาปลูกข้าวเลี้ยงคนไทยทั่วทุกภาค ทั้งมีคุณสมบัติไม่เป็นสนิมง่ายและในตัวข่างมีแร่ธาตุบางชนิดที่เชื่อว่าเป็นตัวยาสามารถใช้รักษาโรคได้ 
ข้อห้ามสำหรับการย่ำขาง ห้ามใช้รักษาผู้ป่วยที่กำลังตั้งครรภ์    ผู้หญิงที่กำลังมีประจำเดือน  ผู้ป่วยที่เพิ่งผ่าตัดมาใหม่  ผู้ป่วยโรคหัวใจ   โรคมะเร็ง (เพราะความร้อนจะทำให้มะเร็งกระจายตัวเร็วขึ้น)     โรคปอด  โรคหืด และผู้ป่วยที่มีไข้ขึ้นสูง
ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาโดยวิธีย่ำขางจะต้องยึดถือข้อห้ามตามที่หมอย่ำขางบอกกล่าว    เพื่อให้อาการเจ็บป่วยหายเร็วขึ้น  โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกินที่หมอย่ำขางเชื่อว่าเป็นของแสลง  ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บปวดและจะกลับมาเป็นซ้ำอีก  ได้แก่  หน่อไม้   ผักชะอม  บอน   ทุเรียน   ไข่   เนื้อไก่   เนื้อวัว  เนื้อควาย  ปลาไหล  ของหมักดอง  อาหารทะเล  หอย  ปลาไม่มีเกล็ด  และกบ
อุปกรณ์ มีดังนี้

ขันตั้ง 
1. หมาก 1 หัว
2. พลู 1 มัด
3. เทียนเล่มน้อย 8 คู่
4. เทียมเล่มบาท 1 เล่ม
5. เทียนเล่มเฟื้อง 1 เล่ม
6. เงินจำนวน 72 บาท 25 สตางค์ (ค่าขันตั้ง อาจจะแตกต่างกันไปในหมอเมืองแต่ละคน)
7. ดอกไม้ขาว 8 ดอก
8. เหล้า 1 ขวด

อุปกรณ์ 
ขาง เตาอังโล่ ขันใส่น้ำปูเลย (เป่าคาถาใส่) สาด (เสื่อ) เหล้า หรือน้ำมันงา

วิธีการรักษา
ผู้ป่วยจะนอนบนเสื่อ หลังจากนั้น หมอเมืองจะยกขันครู หมอจะใช้เท้าชุบน้ำยา คือ สมุนไพรปูเลย หรือที่ภาคกลางเรียกว่า ไพล นำมาบดแล้วผสมกับน้ำในสัดส่วนที่เหมาะสม และน้ำมันงา แล้วย่ำบนข่างที่เผาไฟร้อนจนเป็นสีแดง จากนั้นจึงย่ำบนร่างกายของผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บปวด กดด้วยความร้อนใช้ระยะเวลาประมาณ 2-3 นาที หรือแล้วแต่อาการของโรค
      
       แต่การเหยียบไม่ใช่ เหยียบไปเรื่อยๆ แต่ต้องเหยียบโดยการใช้ปลายเท้าและส้นเท้าสลับกัน ขึ้นอยู่กับว่าส่วนไหนควรจะใช้น้ำหนักมากหรือน้อย เช่น ถ้าเป็นส่วนของฝ่าเท้าที่มีอาการเส้นยืดจะใช้นิ้วโป่งเท้ากดเส้นค้างไว้และปล่อยทำเช่นนี้สลับกันไป แต่ถ้าเป็นบริเวณขา ต้นขาสามารถใช้ทั้งส้นเท้าและนิ้วเท้าได้ โดยจะสามารถรักษาอาการปวดได้หลายโรค เช่น อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดเอ็น ปวดข้อ ปวดกระดูกซึ่งอาจจะมีสาเหตุมาจากความไม่สมดุลของธาตุ อาการชาที่มักเกิดที่มือ เท้า แขน ขา เอว ซึ่งเกิดจากเลือดลมในร่างกายไหลเวียนไม่สะดวก ทำให้เส้นเลือดตีบ รวมไปถึงอาการอัมพฤกษ์ อัมพาต ซึ่งต้องใช้เวลานานในการรักษาตั้งแต่ 20 นาที ไปจนถึง 3 ชั่วโมง และต้องรักษาเป็นประจำ ได้รับความสนใจจากคนในชุมชนเป็นอย่างดี
       
ในอดีตการใช้ขางรักษาโรคมีหลายวิธี   ดังนี้

๑.  ย่ำขาง    คือ    การเอาเท้าชุบน้ำยา  (น้ำไพลและน้ำมันงา)   แล้วไปย่ำหรือวางบนขางที่เผาจนร้อนแดงแล้วไปย่ำบริเวณร่างกายผู้ป่วยตรงที่มีอาการเจ็บปวด  การรักษาด้วยวิธีนี้ยังมีอยู่ในปัจจุบัน
๒.  ปึ๊ขาง   คือการเป่าหรือพ่นน้ำยา  (น้ำไพลและน้ำมันงา)  ลงบนขางที่เผาจนร้อนแดง ทำให้ไอน้ำพุ่งไปปะทะกับร่างกายผู้ป่วยบริเวณที่มีอาการเจ็บปวดซึ่งอังไว้เหนือขาง
๓.  เผาขางสู่   คือ   การเอาใบขางเผาไฟให้ร้อนแดงแล้วจุ่มลงในขันน้ำสมุนไพรให้ผู้ป่วย
ดื่มกิน
๔.  จู้ขาง  คือการเอาห่อยาสมุนไพรชุบน้ำยา(น้ำไพลหรือน้ำมันงา) มาวางบนขางแล้วเอาไปประคบ (จู้) บริเวณร่างกายผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บปวด
กลุ่มอาการหรือโรคที่สามารถบำบัดรักษาด้วยวิธีการย่ำขาง  ได้แก่
๑.  กลุ่มอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ  ปวดเอ็น  ปวดข้อ  ปวดกระดูกซึ่งอาจจะมีสาเหตุมาจากความไม่สมดุลของธาตุหรือจากสิ่งที่มีอำนาจที่ไม่สามารถมองเห็นได้   เรียกว่า โป่ง ทำให้มีอาการ
ปวดบวม  เป็นก้อน  หรือมีสาเหตุมาจากสิ่งที่เกิดแต่น้ำ  เรียกว่า   ยำ ทำให้มีการปวด  คัน  ผิวหนังแดง  ร้อน  และมีตุ่มพุพอง  นอกจากนั้นบางโรคยังมีสาเหตุมาจากการกระทำผิดต่อผีปู่ย่า (ผีบรรพบุรุษ)  ผีเจ้าที่   หรือถูกคุณไสยอีกด้วย
๒. กลุ่มอาการชาที่มักเกิดที่มือ  เท้า  แขน  ขา  เอว  หมอย่ำขางเชื่อว่า   เกิดจากเลือดลมในร่างกายไหลเวียนไม่สะดวก   ทำให้เส้นเลือดตีบ     วิธีรักษาด้วยการย่ำขางสามารถขยายเส้นเลือดและรักษาได้
๓.  กลุ่มอาการอัมพฤกษ์  อัมพาต  เชื่อกันว่า เป็นอาการที่สืบเนื่องมาจากการปวดซึ่งเกิดจากธาตุลมเข้าแทรก ทำให้เส้นเอ็นตึงแข็ง            หากปล่อยไว้นานจะทำให้เสียเส้นเอ็นกลายเป็นอัมพฤกษ์   ถ้าปล่อยไว้นานเกินไปเส้นเอ็นจะสูญเสียศักยภาพแบบถาวรกลายเป็นอัมพาต  ทำให้ต้องใช้เวลายาวนานในการรักษาจึงจะทุเลาเบาบาง          หรือบางรายอาจจะไม่สามารถรักษาให้หายได้

         “ คนในชุมชนสนใจ เพราะนอกจากจะไม่ต้องใช้สารเคมี ไม่ต้องกินยาแล้ว ยังประหยัดค่ารักษาด้วย แต่ที่นี่มีหมอเมืองแค่คนเดียว วันหนึ่งนวดได้แค่ 2-3 คนเท่านั้น แต่จะมาให้บริการทุกวัน ที่ศูนย์บริการสุขภาพบ้านไร่กองขิง ” หมอเมืองย้ำ
         นอกจากย่ำข่างจะช่วยฟื้นสุขภาพของคนในชุมชนแข็งแรงและปราศจากการใช้สารเคมีแล้ว ยังเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์คนในชุมชนอีกทั้งยังส่งผลให้ชาวบ้านสุขภาพดีทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งนับว่าเป็นภูมิปัญญาที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์และสืบทอดต่อไป